คุณกำลังมองหาอะไร?

ะวัง! เสพสารเสพติดขณะท้อง

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

14.03.2553
3
0
แชร์
14
มีนาคม
2553

ระวัง! เสพสารเสพติดขณะท้อง

\t
ผู้จัดการออนไลน์ [ วันจันทร์ ที่ 8 เดือนมีนาคม 2553 ]

ระวัง! เสพสารเสพติดขณะท้อง


บทความโดย : อ.พญ.สุรีย์ลักษณ์ สุจริตพงศ์ กุมารแพทย์

ขึ้นชื่อว่าสารเสพติด แน่นอนว่าย่อมเกิดผลเสียต่อร่างกายทั้งผู้เสพและคนรอบข้าง ยิ่งหญิงตั้งครรภ์ด้วยแล้ว ยิ่งอันตรายจนคุณอาจนึกไม่ถึง วันนี้เรามีสารเสพติด 3 อันดับต้นมาให้คุณระวังถึงพิษภัยที่เกิดขึ้น

1. บุหรี่ - มีส่วนประกอบของนิโคตินเป็นหลัก ออกฤทธิ์โดยตรงต่อสมองทั้งเป็นตัวกระตุ้นและกดประสาทส่วนกลาง คาร์บอนมอนนอกไซด์ในควันบุหรี่และทาร์จะมีผลต่อการทำงานของสารสื่อประสาทอะ เซติลโคลีน (acetylcholine) โดปามีน (dopamine) และนอร์อีพิเนฟริน (nor epinephrine) ส่งผลให้มีการขัดขวางการพัฒนาของเซลล์ประสาทของทารก มีการหดตัวของหลอดเลือดดำมดลูก ทำให้เลือดผ่านรกลดลง ทารกจึงได้รับอาหารและออกซิเจนไม่เพียงพอ มีผลให้น้ำหนักแรกเกิดน้อย ขาดสารอาหารในระยะตั้งครรภ์และเพิ่มอัตราการตายในวัยทารก นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดปัญหาพัฒนาการและพฤติกรรม เช่น เชาวน์ปัญญาบกพร่อง มีปัญหาการเรียน ซุกซนมากผิดปกติ สมาธิสั้น พฤติกรรมก้าวร้าว ตลอดจนมีปัญหาด้านการเข้าสังคม

ผลดังกล่าวจะพบได้ตั้งแต่ระยะแรกของการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอด มีผู้ศึกษาพบว่าหากมารดาสูบบุหรี่ในช่วง 4 สัปดาห์ก่อนคลอด แม้จะเป็นการสูบบุหรี่เพียงครั้งเดียวก็จะส่งผลให้มีการยับยั้งการสร้าง DNA ของทารกได้นานหลายชั่วโมง

นอกจากผลกระทบต่อลูกแล้ว ในส่วนของผลกระทบต่อมารดา คือ ทำให้มีอัตราเสี่ยงต่อการเป็น"โรคหลอดเลือดอุดตัน" เพิ่มขึ้น โดยอาจก่อให้เกิดหลอดเลือดสมองอุดตัน ภาวะลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดดำชั้นลึก (deep vein thrombosis) หรือเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ที่พบบ่อยที่สุด คือ “หลอดลมอักเสบ" ซึ่งพบได้มากกว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 15 เท่า ปอดอักเสบ ไข้หวัดใหญ่ ภาวะหอบหืด 3 เท่า ส่วนผลต่อการตั้งครรภ์พบว่าเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์นอกมดลูก 5 เท่า

2. แอลกอฮอล์ (เหล้า เบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ) - ผลกระทบของแอลกอฮอล์ต่อทารกในครรภ์ พบเมื่อมารดาดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะช่วงปฏิสนธิหรือในช่วง 3 เดือนแรก ความรุนแรงขึ้นอยู่กับปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่ม หากดื่มในปริมาณมากจะส่งผลให้ทารกเมื่อคลอดมีลักษณะของโรคกลุ่มอาการผิดปกติ คือ ช่องตาสั้น,ร่องริมฝีปากบน เรียบ , ริมฝีปากบนยาวและบาง,หนังคลุมหัวตามาก,จมูกแบน,ปลายจมูกเชิดขึ้น,บริเวณส่วน กลางใบหน้ามีการพัฒนาน้อยกว่าปกติ

นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังทำให้เกิดการทำลายของเซลล์ประสาท ส่งผลให้มีการเจริญเติบโตที่บกพร่อง น้ำหนักแรกเกิดน้อยและมีอัตราการเพิ่มน้ำหนักหลังเกิดน้อย ศีรษะเล็ก เกิดความผิดปกติของโครงสร้างสมอง เช่น สมองเล็ก (anencephaly) สมองใหญ่มีร่องผิดปกติ (schizencephaly) เยื่อหุ้มสมองและเนื้อสมองเลื่อน (lumbarmeningomyelocele) ส่วนด้านพัฒนาการของสติปัญญาก็มีความบกพร่อง มีปัญหาด้านความจำ การเคลื่อนไหวผิดปกติ มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางจิตเวช เช่น ภาวะวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า พฤติกรรมอันธพาล และมีปัญหาพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น อาการซุกซนไม่อยู่นิ่ง และสมาธิสั้น

3. แอมเฟตามีนและอนุพันธ์ - ได้แก่ ยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี และ สปีดเป็นต้น จะส่งผลให้มีน้ำหนักแรกเกิดน้อย มีความผิดปกติของหัวใจแต่กำเนิด ภาวะเลือดออกในสมอง ภาวะสมองตาย ทำให้มีการทำลายเซลล์ประสาท เส้นรอบศีรษะมีขนาดเล็ก ซึ่งมีผลต่อสมาธิ ความจำ และมิติสัมพันธ์ และมีผลทำให้เด็กมีปัญหาพฤติกรรมในระยะยาวอีกด้วย

ป้องกันได้ผล

การป้องกันที่ดีที่สุด คือ หลีกเลี่ยงการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดทุกชนิด ไม่ว่าคุณจะตั้งครรภ์หรือไม่ก็ตาม เพราะผลกระทบที่ตามมาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ส่วนในรายที่ตั้งครรภ์แล้ว และยังไม่เลิกหรือเพิ่งจะเลิกใช้สารเสพติด ก็ต้องระมัดระวังทารกในครรภ์เป็นพิเศษ โดยระหว่างที่ตั้งครรภ์ ควรหมั่นพบสูติแพทย์เพื่อติดตามผลของพัฒนาการทารกในครรภ์ตามนัดอย่างสม่ำ เสมอ ปฏิบัติตามคำแนะนำของสูติแพทย์อย่างเคร่งครัด งด ละ เลิก สิ่งเสพติดทุกชนิดอย่างเด็ดขาด และหากคนในครอบครัวสูบบุหรี่ ควรพูดจาขอความร่วมมือให้ไปสูบบุหรี่ภายนอกบ้าน เพราะควันบุหรี่มีสารพิษที่เรียกว่า “ทาร์" ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อทารกในครรภ์และว่าที่คุณแม่ รวมถึงสมาชิกในครอบครัวมากกว่าผู้ที่สูบเองเสียอีก

จากนั้นเมื่อคลอดแล้วก็ไม่ควรละเลย ควรพาทารกไปพบกุมารแพทย์เพื่อเฝ้าระวัง คัดกรอง ประเมินพัฒนาการและพฤติกรรมเป็นระยะ เพื่อหาความผิดปกติร่วมที่พบได้บ่อย เช่น ปัญหาด้านการมองเห็น การได้ยินบกพร่อง เพื่อให้การช่วยเหลือกระตุ้นพัฒนาการโดยเร็วรวมทั้งเพื่อลดปัญหาทางด้านการ เรียนรู้และปัญหาสังคมที่จะตามมา

ในปัจจุบันพบว่ามีการเสพสารเสพติดมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น ที่มีปัญหาทางครอบครัว การเข้าสังคม หรือมีปัญหาการเรียน ยิ่งถ้าไปเสพสารเสพติดในระยะตั้งครรภ์ จะส่งผลกระทบต่อทั้งตัวมารดาตามฤทธิ์ของสารเสพติดและยังส่งผลต่อทารกในครรภ์ ทั้งในแง่การเจริญเติบโต ปัญหาพัฒนาการและพฤติกรรม

ทางออกที่ดีที่สุด คือ แก้ปัญหาให้ตรงจุดอย่างถูกต้อง รวดเร็วทั้งด้านร่างกายและจิตใจเสียก่อน และที่สำคัญ ควรเลิกสารเสพติดทุกชนิดอย่างเด็ดขาด เพราะสารเสพติดส่งผลให้ความยับยั้งชั่งใจลดลง ทำให้มีพฤติกรรมเสี่ยง อาทิ การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งส่งผลกระทบและเป็นอันตรายต่อทารกอย่างแน่นอนค่ะ




 



\t\t\t\t\t\t\t

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน